สุดท้ายก็เกิดการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งผู้จัดการทีมของ เชลซี จนได้

เมื่อ แกรม พ็อตเตอร์ โดนไล่ออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากในช่วงที่ผ่านมา พ็อตเตอร์ ทำผลงานได้น่าผิดหวังมากๆ จนปัจจุบัน เชลซี หล่นไปอยู่ในอันดับที่ 11 ของตารางคะแนนแล้วทั้งนี้ ผู้บริหารของ เชลซี ตัดสินใจให้ บรูโน่ ซัลตอร์ หนึ่งในทีมสตาฟฟ์โค้ชของ พ็อตเตอร์ ขึ้นมารับงานคุมทีมแบบขัดตาทัพ ซึ่งถือเป็นภาระที่หนักอึ้งพอตัวสำหรับคนที่ไม่เคยคุมทีมไหนมาก่อนเลย และวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับคนที่ต้องประคองเรือสีน้ำเงินลำใหญ่คนนี้สักหน่อยซัลตอร์

เกิดในเมือง เอล มาสนู ของแคว้นกาตาลุนย่า ประเทศสเปน นั่นทำให้เขาเคยอยู่กับอะคาเดมี่ของ เอสปันญ่อล หนึ่งในทีมดังประจำแคว้น ซึ่งเขาก็เคยเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของที่นั่นในเกมระดับ ลา ลีกา 1 นัด ก่อนที่จะต้องแยกทางกับทีมในเวลาต่อมา โดยเจ้าตัวรับบทเป็นแบ็กขวาอย่างไรก็ตาม เขาก็เป็นหนึ่งในขุนพล อัลเมเรีย ชุดที่พาทีมเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดได้ตอนจบฤดูกาล 2006-07 และได้ลงเล่นใน ลา ลีกา ไปถึง 34 นัดทั้งในซีซั่น 2007-08 กับ 2008-09 ก่อนที่จะย้ายไปเล่นกับ บาเลนเซีย ซึ่งเขาอยู่ที่นั่นระหว่างปี 2009-2012 และได้ลงเล่นใน ลา ลีกา เยอะในระดับหนึ่งทั้ง 3 ซีซั่นกับทัพ “ไอ้ค้างคาว”ซัลตอร์ หอบข้าวของจาก บาเลนเซีย มาเล่นให้ ไบรท์ตันฯ แบบไร้ค่าตัวในปี 2012 ซึ่งนั่นถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่หลวงสำหรับเขา เพราะตอนนั้น “เดอะ ซีกัลล์ส” เล่นอยู่ใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ แถมตอนนั้นยังไม่ดูเป็นทีมที่ดีพอจะได้เลื่อนชั้นสู่ พรีเมียร์ลีก เลย เพราะก่อนที่เขาจะมาอยู่กับทีม ไบรท์ตันฯ

ก็ได้เพียงอันดับ 10 ของ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ในฤดูกาล 2011-12ในช่วงที่อยู่กับ ไบรท์ตันฯ

แบ็กขวาชาวสแปนิชเล่นให้กับทีมอย่างเต็มที่อยู่เสมอจนถึงขั้นเคยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมของท่นั่นพร้อมกับพาทีมเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกได้ตอนจบฤดูกาล 2016-17 ทำให้เขาได้เล่นใน พรีเมียร์ลีก ร่วมกับทีม 2 ฤดูกาลก่อนจะแขวนสตั๊ดในปี 2019 พร้อมกับประะโยคเด็ดเมื่อครั้งหนึ่งเป็นซีกัลล์ก็จะเป็นซีกัลล์ ตลอดไป” (Once a Seagull, always a Seagull)เรียกได้ว่าเขาทำตามนั้นจริงๆเพราะหลังจากแขวนสตั๊ดไปแล้วนั้น ซัลตอร์ ก็ยังอยู่กับ ไบรท์ตันฯ ต่อ

เพียงแต่เป็นในฐานะโค้ชพัฒนาศักยภาพของนักเตะซึ่งนั่นก็ทำให้เขามีโอกาสได้ทำงานร่วมกับพ็อตเตอร์หลังจากพ็อตเตอร์เพิ่งได้เข้าคุม ไบรท์ตันฯ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2019 และตัวพ็อตเตอร์ ก็ถูกใจการทำงานของซัลตอร์ มากๆ จนหนีบเขามาร่วมงานกันต่อที่เชลซีนอกจากจะมีอารมณ์ร่วมกับเกมลูกหนังอย่างมากแล้วนั้นซัลตอร์ ยังให้ความสำคัญกับเรื่องธรรมชาติด้วยเพราะเขาเข้าร่วมกิจกรรมของฟุตบอลฟอร์ฟิวเจอร์ (Football for Future)ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่ไม่แสวงหาผลประโยชน์ที่ต้องการทำให้เกิดวัฒนธรรมด้านสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนในวงการฟุตบอลซัลตอร์จริงจังกับกิจกรรมนี้จนถึงขั้นเคยร่วมแสดงหนังสั้นของโปรเจ็กต์ดังกล่าวด้วย ในชื่อเรื่องว่า Play On: Football’s Climate Storyโดยมันเป็นการทำเพื่อบอกว่าในแวดวงฟุตบอลมันจำเป็นต้องมีการลด คาร์บอนฟุตพริ้นท์ หรือผลกระทบจากกิจกรรมของมนุษย์ที่มีต่อระบบสิ่งแวดล้อมในแง่ของปริมาณแก๊สเรือนกระจกที่สร้างขึ้นมาจากกิจกรรมนั้นๆ

“มันเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ที่วงการฟุตบอลเริ่มตระหนักแล้วว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศมันจะส่งผลกับเกมฟุตบอลยังไง และเราต้องเริ่มลงมือทำบางอย่างได้แล้ว ผมไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบ สโมสรของผมก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ เรารู้ดีว่าเรายังต้องทำอีกหลายอย่าง และต้องปรับปรุงสภาพแวดล้อมของสโมสร แต่เราภูมิใจมากๆ ที่ทำการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างของที่ ไบรท์ตันฯ ได้จนถึงตอนนี้ รวมถึงได้มีส่วนร่วมกับหนังสั้นครั้งนี้ด้วย สำหรับการเป็นสโมสรใน พรีเมียร์ลีก นั้น มันก็ถือเป็นงานของเราที่ต้องเป็นผู้นำในด้านนี้” ซัลตอร์ กล่าวเอาไว้ในหนังสั้นเรื่องดังกล่าว

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมทุกวันตรงนี้ cafeforestal.com